จอมเผด็จศึก พิษณุราชันย์

จอมเผด็จศึก พิษณุราชันย์ (เกิด 13 กันยายน 2512) หรือ นกน้อย สิงห์โนนสวน หรือ นกน้อย ไทยวัฒนา อดีตนักมวยไทยอาชีพจอมเผด็จศึกมีชื่อจริงว่า อุทัย ศิริโยธา เกิดเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2512 ที่ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี เป็นบุตรคนเล็กในบรรดาพี่น้อง 2 คนของนาย มาลัย และนาง บุญเทียน ศิริโยธา เขาเริ่มต้นหัดมวยและขึ้นสังเวียนผ้าใบครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2523 ขณะอายุเพียง 11 ปีเนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจนประกอบอาชีพทำนาโดยเขาหัดมวยกับน้าชื่อ ประคอง สิทธิติกิจ ซึ่งเป็นครูมวยคนแรก [1] โดยหัดได้ 2 เดือนก็ขึ้นชกครั้งแรกที่เวทีงานวัดใช้ชื่อว่า สีหมอก ส.เทพพนม ปรากฏว่าเขาเป็นฝ่ายชนะได้เงินค่าตัว 40 บาทจากนั้นจึงตระเวนชกแถบนครสวรรค์ ไพศาลี ท่าตะโก จนได้ชกกับ เมืองชัย กิตติเกษม และนักมวยอีกหลายคนต่อมาเขาเดินทางเข้ามาที่กรุงเทพมหานครโดยมาอยู่กับ สมาน จันทร์ภู่ หัวหน้าค่ายสิงห์โนนสวนเมื่อ พ.ศ. 2526 ขณะอายุเพียง 14 ปีเวลาต่อมานักมวยในค่ายชื่อ นกน้อย สิงห์โนนสวน เกิดล้มป่วยหัวหน้าค่ายจึงให้เขาสวมรอยเป็น นกน้อย สิงห์โนนสวน และขึ้นชกเป็นคู่แรกของศึกจ้าวมังกรของเสี่ย ส่ง กาญจนชูศักดิ์ ปรากฏว่าเขาเป็นฝ่ายชนะได้ค่าตัว 1,000 บาทหลังจากนั้นหัวหน้าค่ายจึงให้เขาใช้ชื่อนี้มาตลอดจากนั้นเขาได้ย้ายมาอยู่ค่ายพิษณุราชันย์ของ มหาซื่อ ทวีศักดิ์ ภู่ทอง พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น จอมเผด็จศึก พิษณุราชันย์ ซึ่งชื่อของเขาได้รับแรงบันดาลใจจากยอดมวยในอดีตของค่ายอย่าง เผด็จศึก พิษณุราชันย์ โดยเขาขึ้นชกกับนักมวยชื่อดังหลายคนในยุคนั้นอย่าง สมบัติ ส.ธนิกุล พนมรุ้ง ศิษย์ สวป. บัวขาว ป. พิสิษฐ์เชษฐ์ ดวงดาว อ.ธีระชัย แสนเก่ง ปิ่นสินชัย เป็นต้นโดยเฉพาะไฟท์ที่จอมเผด็จศึกชกกับ ดวงดาว อ.ธีระชัย ที่ เวทีมวยราชดำเนิน เมื่อ พ.ศ. 2538 เป็นไฟท์ที่ถูกกล่าวถึงอย่างมากเพราะจอมเผด็จศึกเป็นลมจนสลบทั้ง ๆ ที่เป็นฝ่ายชนะคะแนนจนต้องหามลงจากเวทีเพราะจอมเผด็จศึกร้างเวทีไปนานถึงขนาดที่ว่าคุณ พิศณุ นิลกลัด ซึ่งเป็นพิธีกรและผู้บรรยายจากรายการ ยอดมวยเอก ได้กล่าวไว้ว่า จอมเผด็จศึกเป็นนักมวยคนแรกในรอบหลายสิบปีที่ต้องหามลงจากเวทีทั้ง ๆ ที่เป็นผู้ชนะจอมเผด็จศึกตัดสินใจแขวนนวมเมื่อ พ.ศ. 2542 ขณะอายุเพียง 29 ปีโดยในปัจจุบันเขาเป็นเทรนเนอร์ให้กับค่าย ส.พูลสวัสดิ์